วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มองโลกในแง่ดี



 "เป็นยังไงบ้าง จีบน้องเจี๊ยบไปถึงไหนแล้ว"

นิรุตต์ยิ้มอย่างมีความสุข

"ก็ไม่เลวนัก" เขาตอบ

"ตอนนี้ผมชักจะมีกำลังใจขึ้นมาแล้ว"

"จริงรึ" เพื่อนถาม

"เธอเริ่มยิ้มหวานให้คุณแล้วเหรอ"

"ก็ไม่เชิงทีเดียว" นิรุตต์ตอบ

"แต่เมื่อคืนเธอพูดกับผมว่า เธอขอบอกว่า 'No' เป็นครั้งสุดท้าย"

เมื่อใครสักคนบอกกับคุณว่า 'No' เป็นครั้งสุดท้าย คุณคงคิดว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว ทางออกที่เหลืออยู่คือหาคนใหม่ แต่สำหรับนิรุตต์ เขากลับมองว่า ต่อแต่นี้ไปก็จะมีแต่คำว่า 'Yes' เท่านั้น หญิงสาวผู้นั้นจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่นิรุตต์เลือกที่จะมองแบบนี้ เพราะนั้นทำให้เขามีความหวังต่อไป และมีความสุขอยู่ได้

เวลาเกิดปัญหาขึ้นมาในชีวิต เรามีทางเลือกอย่างน้อยสองทาง คือทุกข์ กับไม่ทุกข์ ถ้าเราหลับหูหลับตาเอาปัญหานั้นมาทิ่มแทงจิตใจตัวเอง เราก็ทุกข์สถานเดียว แต่ถ้าเรารู้จักมอง เราก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ทุกข์ได้

ใคร ๆ ก็ทุกข์เพราะเศรษฐกิจตกสะเก็ด แต่เราอาจไม่ทุกข์ก็ได้หากมองว่า ความเป็นอยู่ตอนี้ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าเมื่อก่อนโน้น นึกถึงตอนเด็ก ๆ ต้องเดินไปโรงเรียน โทรทัศน์สีก็ไม่มีดู ผิดกันไกลกับสภาพความเป็นอยู่ตอนนี้

หรือถึงวันนี้เราจะแย่ แต่ก็ยังดีกว่าอีกหลาย ๆ คนที่หนักสาหัสกว่าเรา ไม่ต้องมองไปไกลถึงอินเดีย หรือแอฟริกา แค่คนที่อยู่หลังกำแพงบ้านเรา เรายังสบายกว่าเขามากมายนัก

มีใครคนหนึ่งเคยพูดว่า "ตอนเป็นเด็ก ดิฉันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร อยากได้รองเท้าคู่ใหม่ แต่ก็หยุดร้องไห้ ทันทีเมื่อแม่ขี้ให้ดูเด็กคนหนึ่งซึ่งไม่มีแม้แต่เท้าที่จะเดิน"

เมื่อหลุดออกจากออกจากความทุกข์ของตน หันไปมองความทุกข์ของคนอื่นบ้าง เราจะรู้สึกว่าโชคดีขึ้นเยอะ เช่นเดียวกับเด็กสาวที่รู้สึกโชคดีที่ยังมีเท้าเดิน การไม่มีรองเท้าใส่กลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลย

แน่นอน เป็นไปได้ว่าตอนนี้คุณอาจทุกข์แบบสุด ๆ ก็ได้ แต่อะไรก็ตามที่ถึงขีดสุดแล้วมันก็ต้องลงต่ำ ทำนองเดียวกับหญิงสาวที่บอก 'No' เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งต่อไปก็ต้องเป็น 'Yes' มิใช่หรือ อาทิตย์เมื่อขึ้นถึงกลางฟ้า แผดความร้อนอย่างถึงที่สุดแล้ว วินาทีต่อมามันก็ต้องคล้อยต่ำจนลับขอบฟ้าในที่สุด เพราะฉะนั้นทุกข์แบบสุด ๆ ขณะนี้ก็ดีไปอย่าง เพราะนับแต่นี้ต่อไป มันก็มีแต่จะดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมองเท่าไรแล้วก็ยังมองไม่เห็นแง่ดี หรือเกิดกำลังใจมากขึ้นเท่าไร คุณลองใช้อุบายอย่างชายคนข้างล่างนี้ เห็นทีจะได้ผลแน่



พิชัยเห็นเพื่อนเก่าเดินกะเผลกมาแต่ไกล เลยถาม

"เป็นอะไรหรือ ทำไมถึงกะโผลกกะเผลกแบบนี้"

"ก็จะอะไรเสียอีก รองเท้าคู่นี้น่ะซี มันกำลังจะฆ่าฉันอยู่แล้ว"

"แล้วใส่มันทำไมล่ะ" พิชัยถาม

"นี่ฉันจะบอกให้ ธุรกิจฉันกำลังย่ำแย่ ฉันเป็นหนี้ธนาคาร ติดไฟแนนซ์ บ้านกำลังจะถูกยึด ลูกสาวสองคนก็ทึนทึก ไม่รู้จะมีใครมาขอแต่งหรือเปล่า ส่วนเจ้าลูกชายก็เอาแต่เที่ยว งานการไม่สนใจ อยู่ที่ทำงานก็มีแต่ปัญหาร้อยแปด กลับมาบ้านก็ต้องมาเจอเมียขี้บ่น บ่น บ่นจนฉันแทบจะเป็นบ้า อยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไป…เฮ้อออออ"

 "แต่พอฉันถอดรองเท้าสัปรังเคคู่นี้ออก…แกเอ๋ย สุขอะไรอย่างนี้ เป็นสุขอย่างเดียวที่ฉันมีอยู่ตอนนี้เลยว่ะ"

 ของฝากก่อนไปหาหมอ..จากพี่เณรชิต


ที่มา มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น